หน้าแรก > คำพิพากษาศาลฎีกาน่าดู >
เรื่องจริงอิงฎีกา/พรากเด็ก
อำนาจปกครองเด็กอยู่กับใคร
# พรากเด็กไปจากตาและยาย แม่หมดอำนาจปกครองหรือไม่
เมื่อแม่ส่งมอบบุตรผู้เยาว์ให้อยู่ในอำนาจการปกครองดูแลกับตาและยาย การที่มีผู้มุ่งประสงค์ร้ายชักชวนหรือหลอกลวงนำพาบุตรผู้เยาว์ไปขายบริการตามสถานที่ต่างๆ แม่หรือมารดาหมดอำนาจปกครองหรือไม่
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 317 ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวเด็กซึ่งถูกพรากตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้พรากนั้น
ถ้าความผิดตามมาตรานี้ได้กระทำเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
เรื่องจริงอิงฎีกา/ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14699/2556
..........การพรากเด็กอันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 317 วรรคสาม คือ การพรากไปเสียจากอำนาจปกครองของบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล แม้ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายที่ 1 จะมิได้พักอาศัยอยู่กับผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นมารดา เพราะผู้เสียหายที่ 2 ไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร โดยได้มอบหมายให้ผู้เสียหายที่ 1 อยู่ในความดูแลของตาและยายก็ตาม แต่ผู้เสียหายที่ 1 ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อำนาจปกครองของผู้เสียหายที่ 2 ในฐานะมารดาของผู้เสียหายที่ 1 จึงยังมิได้หมดสิ้นไป ผู้เสียหายที่ 1 ยังคงอยู่ในอำนาจปกครองของมารดาตลอดเวลาที่มารดายังเอาใจใส่ดูแลและให้การอุปการะอยู่ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้เสียหายที่ 2 ยังส่งเงินมาให้ผู้เสียหายที่ 1 เป็นค่าเลี้ยงดูและค่าเล่าเรียนทุกเดือน การที่จำเลยที่ 1 ร่วมกับพวกพาผู้เสียหายที่ 1 ไปจากบ้านตาและยายเพื่อพาไปค้าประเวณียังสถานที่ต่างๆ จึงเป็นการพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากมารดาผู้ปกครองโดยปราศจากเหตุอันสมควรเพื่อการอนาจาร