หน้าแรก > คำพิพากษาศาลฎีกาน่าดู >
เรื่องจริงอิงฎีกา/กระทำชำเราเด็ก
ยังไม่ถือเป็นการกระทำชำเราเด็กก็เป็นความผิด
# แทงไม่เข้าก็กระทำชำเราไม่ได้
การที่ผู้กระทำความผิดมีเจตนาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง แต่ไม่สามารถนำพาอวัยวะเพศของตนเองเข้าสู่อวัยวะเพศของเด็กหญิงได้จนกระทั่งถึงจุดสุดยอด ถือได้ว่ากระทำชำเราเด็กหญิงสำเร็จหรือไม่
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า การกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่นหรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
มาตรา 279 ผู้ใดกระทำอานาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบห้าปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เรื่องจริงอิงฎีกา/ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9267/2556
..........การจะเป็นความผิดฐานกระทำชำเราเด็กตาม ป.อ. มาตรา 277 วรรคสาม นั้น ผู้กระทำจะต้องใช้อวัยวะเพศของตนเองกระทำในลักษณะที่จะใช้อวัยวะเพศสอดใส่กับอวัยวะเพศของหญิงผู้ถูกกระทำ เมื่อจำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยถูไถอวัยวะเพศของผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ โดยการกระทำของจำเลยยังไม่ถึงขั้นที่ใช้อวัยวะเพศของตนเองสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย จึงถือว่าลักษณะการกระทำความผิดของจำเลยยังไม่อยู่ในวิสัยที่จะกระทำชำเราผู้เสียหายตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดเพียงฐานกระทำอนาจารผู้เสียหายตาม ป.อ. มาตรา 279 วรรคหนึ่ง เท่านั้น ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจลงโทษได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย ประกอบมาตรา 215 และ 225