หน้าแรก > คำพิพากษาศาลฎีกาน่าดู >
เรื่องจริงอิงฎีกา/ธนาคารลักทรัพย์
เขาหาว่าธนาคารลักทรัพย์
# ธนาคารลักทรัพย์ของลูกค้าผู้ฝากเงินได้ไหม
เจ้าหน้าที่ธนาคารลงข้อความเท็จในบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของลูกค้าและจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จว่า ลูกค้านำเช็คของบุคคลอื่นจำนวน 500,000 บาท มาขายลดเช็คให้กับธนาคาร แล้วนำเงินมาชำระหนี้ขายลดเช็คฉบับอื่นจำนวน 500,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ธนาคารเบิกถอนเงินจำนวน 500,000 บาท ไปทำให้เงินในบัญชีของลูกค้าหายไป ใครลักทรัพย์
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
เรื่องจริงอิงฎีกา/ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7819/2552
..........การกระทำที่จะครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 334 นั้น จะต้องเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต แต่กรณีตามฟ้องของโจทก์ทั้งสองในคดีนี้ปรากฏว่า เงินจำนวนที่จำเลยทั้งสองเบิกถอนไปเป็นเงินที่อยู่ในบัญชีเงินฝากของโจทก์ที่ 1 ที่ฝากไว้กับจำเลยทั้งสอง เงินจำนวนดังกล่าวจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์และอยู่ในความครอบครองของจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้รับฝากย่อมมีสิทธิที่จะบริหารจัดการเงินฝากจำนวนดังกล่าวนั้นประการใดก็ได้ จำเลยทั้งสองคงมีหน้าที่เพียงต้องคืนเงินฝากตามจำนวนที่โจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นลูกค้านำเข้าฝากไว้เท่านั้น โดยจำเลยทั้งสองไม่จำต้องส่งคืนเป็นเงินจำนวนอันเดียวกับที่ฝากไว้ ดังนั้น การที่จำเลยทั้งสองเบิกถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ที่ 1 จึงมิใช่เป็นการเอาทรัพย์ของโจทก์ทั้งสองไป การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ตามฟ้อง