คำถามอยากรู้
Question & Answer
Q : สำนักงานกฎหมายรับดำเนินคดีประเภทใดบ้าง
A : สำนักงานฯ เราดำเนินคดีอย่างครบวงจรเกี่ยวกับ คดีแพ่ง คดีอาญา คดีล้มละลาย คดีครอบครัว คดีปกครอง คดีแรงงาน คดีทรัพย์สินทางปัญญา คดีการแข่งขันทางการค้า การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และทุกคดีที่ท่านมีปัญหา
Q : นอกจากการดำเนินคดีแล้ว มีบริการด้านไหนอีกบ้าง
A : สำนักงานฯ เราบริการให้คำปรึกษากฎหมายแก่ประชาชนทั่วไป บริการเป็นที่ปรึกษากฎหมายประจำบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฯลฯ บริการจัดทำร่างสัญญาต่างๆ บริการบอกกล่าวทวงถามหนี้ บริการบังคับคดี บริการแต่งตั้งตัวแทนเพื่อดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท บริการจดทะเบียนธุรกิจและด้านบัญชีภาษีอากร บริการประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย
Q : เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับคดีจำเป็นต้องฟ้องทุกคดีไหม
A : ไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องข้อพิพาทที่เกิดขึ้นทุกคดี เพราะสำนักงานฯ เรามีบริการด้านเจรจาไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความก่อนดำเนินการฟ้องร้อง
Q : เคยว่าจ้างสำนักงานทนายความอื่นแล้วแต่ถูกทอดทิ้งคดีและสูญเสียค่าว่าจ้างไปโดยปริยาย สำนักงานจะรับผิดชอบอย่างไร
A : สำนักงานฯ เราให้บริการด้วยความจริงใจและมุ่งมั่นรักษาผลประโยชน์ลูกค้าเป็นที่สุดซึ่งเรามีผู้เชี่ยวชาญกฎหมายแต่ละแขนงคอยให้บริการโดยอยู่ภายใต้กฎหมาย มีจริยธรรมและมรรยาททนายความตามที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ให้การรับรองการขึ้นทะเบียนทนายความทุกคน กรณีจึงไม่มีการทอดทิ้งคดีที่ให้บริการ
Q : อัตราค่าจ้างทนายความมีราคาแพงไหม
A : สำนักงานฯ เราคิดค่าบริการงานว่าจ้างเกี่ยวกับคดีมีอัตราตามความซับซ้อนเป็นรายคดี ทั้งนี้ ภายใต้ขอบเขตและรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ลูกค้ามีข้อพิพาทเป็นรายกรณี
Q : นอกจากค่าจ้างทนายความแล้ว มีค่าใช้จ่ายอะไรอีกไหม
A : ค่าขึ้นศาล ค่าธรรมเนียมศาล ค่าธรรมเนียมหน่วยงานราชการ/เอกชน ค่าภาษีอากร ค่าพาหนะและค่าใช้จ่ายอื่นตามความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับคดี
Q : เมื่อตกลงว่าจ้างทนายความแล้ว หากเปลี่ยนใจจะขอคืนค่าว่าจ้างได้ไหม
A : ลูกค้าสามารถขอคืนค่าว่าจ้างได้ภายในกำหนด 3 วัน ทำการ โดยหักค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นค่าดำเนินการของสำนักงานฯ แล้วตามรายละเอียดและเงื่อนไขที่สำนักงานฯ กำหนด
Q : เมื่อตกลงว่าจ้างแล้วสำนักงานจะดำเนินการฟ้องร้องภายในระยะเวลากี่วัน
A : หลังจากที่ลูกค้าตกลงว่าจ้างและชำระเงินภายในระยะเวลาที่สำนักงานฯ กำหนดแล้ว สำนักงานฯ ดำเนินการฟ้องร้องคดีได้ภายในกำหนด 7 วัน กรณีคดีมีข้อพิพาทที่ไม่มีข้อยุ่งยากและภายในกำหนด 15 วัน สำหรับคดีที่มีข้อพิพาทยุ่งยากซับซ้อน ทั้งนี้ เป็นไปตามรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเอกสารซึ่งลูกค้าได้ส่งมอบให้เป็นที่ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว พร้อมประกอบกับกรอบระยะเวลาของเรื่องข้อพิพาทนั้นๆ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้อีกด้วย
Q : เมื่อมีการฟ้องร้องคดีแล้ว ใช้เวลาในการดำเนินคดีนานไหม
A : หลังจากฟ้องคดีแล้ว ลูกค้าจะไปศาลครั้งแรกภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน โดยลูกค้าสามารถไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความและคดีเสร็จสิ้นภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวได้ ทั้งนี้กำหนดเวลาดังกล่าวเป็นไปตามที่คู่กรณีตกลงกัน
Q : เมื่อดำเนินการฟ้องคดีมีสิทธิชนะไหม
A : ผลแห่งการดำเนินคดีที่ลูกค้ามีข้อพิพาทเป็นไปตามรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่มีอยู่จริงและเกิดขึ้นจริง การชนะคดีหรือแพ้คดีศาลจะเป็นผู้พิจารณาและมีคำพิพากษาตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่คู่กรณีมีข้อโต้แย้งต่อกัน
Q : เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วจะได้รับชำระหนี้ไหม
A : หลังจากศาลมีคำพิพากษา จำเลยต้องปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล
Q : หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ต้องดำเนินการอย่างไร
A : บังคับคดีแก่ลูกหนี้ตามกฎหมายต่อไป
Q : เมื่อศาลพิพากษาแล้วไม่พอใจทำอย่างไร
A : ลูกค้ามีสิทธิอุทธรณ์/ฎีกาคดีแพ่ง คดีอาญา คำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้ตามกฎหมาย
Q : เมื่อตกลงว่าจ้างแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าดำเนินการถึงไหนแล้ว
A : สำนักงานฯ เรามีระบบการบริหารจัดการคดีโดยแสดงผลเป็นรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีเพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบความเคลื่อนไหวข้อมูลด้วยวิธีการทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์เป็นระยะๆ ของการทำงาน
Q : กรณีมีเรื่องเร่งด่วนติดต่อทันทีได้อย่างไร
A : Hotline : 093-131-5663
Visitors: 59,887